สามีโร่แจ้งตำรวจกลัวกิ๊กหนุ่มดักฉุดเอาตัวไป

          เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งเหตุจากชาวบ้านในจังหวัดเชียงใหม่  ว่าให้ช่วยติดตามหาภรรยาของเขาที่หายตัวออกไปจากบ้านเมื่อวันที่ 3 เดือนพฤศจิกายนปีพศ 2563    เดือนพฤศจิกายนปีพศ2563 โดยนายวิรัตน์ระบุว่าภรรยาของเขานั้น ปลูกชายที่ชื่อนายอ่องยุ่น  เข้ามาหนักสุดถึงในบ้านพักของตนเองซึ่งบ้านของนาย วิรัตน์นั้นเปิดเป็นร้านขายของชำอยู่

       เมื่อทางด้านเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งเหตุจึงได้มีการส่งชุดสืบสวนสอบสวนลงพื้นที่ติดตามหาตัวหญิงคนดังกล่าวทันทีโดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบว่าหญิงที่ถูกดักฉุดตัวไปนั้นชื่อว่านางหยก  เป็นชาวไทใหญ่ อย่างไรก็ตามหลังจากที่ทางด้านสามีของนางหยกได้มีการแจ้งความผิดตามคนหาย ใช้ระยะเวลาไม่นานเจ้าหน้าที่ตำรวจก็สามารถติดตามนางหยกและชายหนุ่มที่สุดนางหยกไปได้

        แต่เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเชิญตัวทั้งนางหยกและชายที่ชุดนางหยกมาที่สถานีตำรวจพร้อมทั้งตามตัวสามีของนางหยกก็คือนายวิรัตน์มาที่สถานีตำรวจ ปรากฏว่านางยกได้ให้การกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าตนเองไม่ได้ถูกฉุดไปแต่อย่างใด   พร้อมทั้งบอกกับเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วยว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นเป็นการเข้าใจผิดกันโดยตนเองรู้จักกับนายอ่องยุ่นและที่ไปด้วยกันนั้นก็เป็นการยินยอมพร้อมใจที่สำคัญไม่ได้รับอันตรายใดๆในการไปกับนายออกยื่นในครั้งนี้ 

             โดยเหตุการณ์ในครั้งนี้นางหยกยืนยันว่าเป็นความยินยอมพร้อมใจของเธอเองที่จะเดินทางไปกับนายออกยุ่นและเป็นปัญหาครอบครัวไม่ต้องการให้มีการดำเนินคดีใดๆทั้งสิ้น  ดังนั้นท้ายที่สุดแล้วทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงไม่ได้แจ้งข้อหาใดๆ

       สำหรับเรื่องราวที่เกิดขึ้นนั้น   นางหยกได้เล่าให้เจ้าหน้าที่ตำรวจฟังเพราะๆว่าอันที่จริงแล้วเธอกับนายวิรัตน์นั้นเป็นสามีภรรยากันแต่เธอนั้นได้แอบมีกิ๊กชื่อว่านายอ๋องยุ่นและในวันเกิดเหตุนั้นเธอก็ออกไปกับกิ๊กของเธอ  ซึ่งในขณะนี้เธอกำลังตัดสินใจว่าเธอจะเลือกไปอยู่กับใครระหว่างสามีและกิ๊ก   เบื้องต้นครอบครัวของเธอนั้นต่างก็พากันเดินทางมาที่สถานีตำรวจและพูดคุยเรียกเกลี้ยกล่อม ให้นางหยกนั้นกลับบ้านไปอยู่กับสามี   เนื่องจากสงสารลูก  และถ้าหากนางหยกใจอยากไปอยู่กับกิ๊กก็ให้กลับบ้านไปพูดคุยกับลูกและแม่ของนางหยกให้เรียบร้อยเสียก่อน

              อย่างไรก็ตามนางหยกไม่ได้มีท่าทีว่าจะเลือกใครแต่ก็พร้อมที่จะเดินทางกลับบ้านไปกับญาติของเธอโดยการนำรถกระบะมารับเธอที่สถานีตำรวจ ซึ่งเธอยืนยันว่าจะต้องไปพูดคุยกับสามีของเธออีกครั้งหนึ่งว่าจะเอายังไงต้องมีการตกลงรายละเอียดกับสามีก็คือนายวิรัตน์เสียก่อน  เพราะต้องมีการเคลียร์กันเกี่ยวกับเรื่องของทรัพย์สินและเดียวกับเรื่องของการดูแลลูก  

         

สนับสนุนโดย  แทงหวยฮานอย