รับมือกับผู้ป่วยที่มีสภาวะทางจิต

สภาวะทางจิตเป็นสิ่งที่สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกเพศทุกวัยแต่การแสดงออกมานั้นจะชัดเจนหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมและสิ่งที่ทำให้คนเหล่านั้นเกิดสภาวะเหล่านี้ เพราะคนส่วนใหญ่ที่เกิดสภาวะเหล่านี้ก็มักจะมีผลมาจากการที่เจอเรื่องราวที่กระทบจิตใจและทำให้เป็นคนย้ำคิดย้ำทำ และมักมีการนึกจินตนาการกับสิ่งต่างๆอยู่เสมอ จึงมักเรียกคนกลุ่มนี้ว่าผู้ที่มีอาการป่วยทางด้านจิตใจ

ซึ่งต้องบอกว่าเป็นเรื่องที่บอบบางอย่างมากเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นง่ายและไม่แปลกที่ในปัจจุบันนี้นั้นคนส่วนใหญ่นั้นมีสภาวะทางจิตกันค่อนข้างมากด้วยเนื่องจากสภาวะสิ่งต่างๆรอบข้างที่มีการเปลี่ยนแปลงและมีการแข่งขันในเรื่องราวต่างๆที่สูง ทำให้สิ่งเหล่านี้ส่งผลให้คนเรานั้นมีสภาวะทางจิตใจมากขึ้น

และเมื่อต้องอยู่ร่วมกับผู้ที่มีสภาวะเหล่านี้สิ่งที่เราควรปฏิบัติติ่ผู้ป่วยนั้นจะต้องปฏิบัติอย่างเหมาะสมเพราะไม่เช่นนั้นก็จำทำให้ผู้ป่วยนั้นมีอาการที่แย่มากขึ้น

ไม่พูดสิ่งที่กระทบจิตใจของผู้ป่วย บางครั้งแค่คำพูดบางคำนั้นก็อาจจะทำให้ผู้ป่วยด้วยสภาวะทางจิตนั้นเกิดการน้อยเนื้อต่ำใจและคำพูดก็อาจจะเป็นสิ่งที่ทำให้เกิดปัญหาต่างๆกับผู้ป่วยได้ยกตัวอย่างเช่น การพูดในเรื่องที่ผู้ป่วยนั้นได้รับการกระทบจิตใจมาก็จะทำให้ผู้ป่วยนั้นเกิดความเครียดและทำให้ผู้ป่วยเก็บเรื่องราวที่เรานั้นพูดไปคิดและอาจจะนำมาซึ่งการกระทำที่ไม่คาดคิดเช่นการฆ่าตัวตายก็ได้ ก็ถือว่าคำพูดเป็นสิ่งที่สามารถสร้างสถานการณ์ที่ร้ายแรงมากขึ้นได้

ชื่นชมกับการกระทำต่างๆของเขาและแนะนำเมื่อเขาทำพลาด คนเหล่านี้จะรู้สึกดีเมื่อได้นับคำชมและการชื่นชมนั้นจะเป็นแรงผลักดันทำให้พวกเขานั้นมีกำลังใจและสามารถพัฒนาตัวเองไปในทางที่ดีได้ และถ้าหากผู้ป่วยนั้นไม่ได้รับสิ่งที่กระทบจิตใจทั้งไม่ว่าจะเป็นคำพูดหรือการกระทำที่ไม่ดีที่มาจากคนรอบข้าง อาการป่วยทางจิตนั้นก็สามารถที่จะเบาลงและหายขาดได้ดังนั้นแล้วถ้าหากต้องเผชิญหรือใกล้ชิดกับผู้ที่มีอาการป่วยทางจิตนั้นก็ควรที่จะพูดและชื่นชมด้วยคำพูดดีๆ แน่นอนว่าเมื่อชมแล้วการแนะนำสิ่งที่สามารถให้ผู้ป่วยนำสิ่งเหล่านี้ไปพัฒนาได้

ก็เป็นการรับมือที่ง่ายและสามารถทำให้ผู้ป่วยพัฒนาตัวเองไปในทางที่ดีขึ้นได้ แต่ควรที่จะมีคำพูดที่ดีเพราะถ้าหากมีคำพูดไม่เหมาะสมแล้วนั้นบางครั้งการแนะนำก็อาจจะเป็นการไปทำร้ายจิตใจและทำให้สภาวะการป่วยทางจิตใจนั้นรุนแรงขึ้นได้ ถึงแม้ว่าเรื่องราวเหล่านี้จะต้องอาศัยเวลาทั้งในการศึกษาผู้ป่วยและเรียนรู้อย่างเข้าใจแต่ถ้าหากสามารถรับมือได้นอกจากที่เรานั้นยังสามารถช่วยผู้ป่วยได้ ผู้ป่วยเองนั้นก็สามารถช่วยตัวเองและพัฒนาตัวเองให้เป็นคนที่ดีขึ้นได้

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย  แทงหวยจับยี่กี